พูดถึงการตลาดสมัยใหม่นั้น มีเครื่องมือให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสื่อต่าง ๆ การวิเคราะห์แบบใหม่ ๆ และสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ ช่องทางการจัดจำหน่าย ในปัจจุบันช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นมีมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบออฟไลน์ คือตามห้างร้านต่าง ๆ ซึ่งก็แยกเป็น Hyper Market, Supermarket หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าในชุมชนก็ตาม หรือจะเป็นแบบออนไลน์ก็ยิ่งมีความสำคัญไม่แพ้กันเพราะนับวันคนสมัยใหม่ก็ยิ่งหันมาให้ความสนใจกับช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งก็มีทั้งการซื้อผ่านเว็บไซต์การซื้อผ่านแพลตฟอร์มรวมไปถึงการซื้อสินค้าผ่านทาง Social Media ด้วย
ในปัจจุบันนั้นมีช่องทางออนไลน์ให้เลือกใช้มากมาย โดยที่จะเป็นที่นิยมกันก็คือในช่องทางแบบฟอร์มร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งในประเทศไทยก็มีช่องทางที่ได้รับความนิยม เช่น Shopee และ Lazada ซึ่งคนทั่วไปสามารถใช้งานได้ง่ายเพียงแค่สมัครสมาชิกและจ่ายเงิน โดยช่องทางเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานผู้ขายและผู้ซื้อไว้ด้วยกัน โดยกำหนดการจัดส่งต่าง ๆ รวมไปถึงการยุติข้อโต้แย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้ ถือว่าเป็นตัวกลางที่มีประสิทธิภาพสูง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะหลาย ๆ คนก็เปลี่ยนพฤติกรรมจากการซื้อของในห้างสรรพสินค้า มาเป็นการซื้อขายทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น เหตุผลก็คือมีความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงไปซื้อของในห้างสรรพสินค้าที่อาจต้องพบเจอผู้คนมากมายท่ามกลางสภาวะโรคระบาด แต่ปัจจัยสำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือ เรื่องของราคาที่บางครั้งการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ หรือช่วงเทศกาลช๊อปปิ้งต่าง ๆ นั้นทำให้ราคาสินค้ามีราคาถูกกว่าไปซื้อในห้าง ซึ่งก็ทำให้ได้รับความนิยมอย่างสูง เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างมากในเวลาอันสั้น พฤติกรรมบางอย่างที่เราไม่เคยเห็นในอดีตนั้นก็สามารถเห็นได้ในยุคนี้ เช่น การรอช้อปปิ้งในช่วงเที่ยงคืนเพื่อที่จะกดโค้ดส่วนลดในการซื้อสินค้า เป็นการลดทอนอำนาจของช่องทางการจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม เช่น ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ในอดีตที่มีอำนาจการต่อรองสูงมาก ในปัจจุบันนั้นผู้ขายและผู้ซื้อก็มีอำนาจที่มากขึ้นจากการก้าวเข้ามาของแพลตฟอร์มออนไลน์นี่เอง จึงเป็นข้อดีสำหรับผู้บริโภคที่มีทางเลือกมากขึ้นและสามารถซื้อของที่ต้องการในราคาที่ถูกลงได้ซึ่งก็ทำให้ในอุตสาหกรรมมีการปรับตัวอย่างมาก มีการเติบโตของการส่งสินค้ามากขึ้นทำให้หลายบริษัทนั้นเติบโตมาได้จากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคเหล่านี้นี่เอง
การเติบโตของแพลตฟอร์มการซื้อสินค้าช่องทางออนไลน์เหล่านี้มีการเติบโตที่รวดเร็วก็จริง แต่ก็มาจากการใช้เงินจำนวนมากเช่นเดียวกัน ทำให้ผลประกอบการของแพลตฟอร์มเหล่านี้ติดลบ ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อแลกกับลูกค้าที่เข้ามาซื้อหรือใช้งานนั้นเอง เงินส่วนใหญ่นั้นสูญเสียไปกับการสร้างระบบขึ้นมา แต่สิ่งที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือ การให้แรงจูงใจในรูปแบบของส่วนลดเพื่อให้คนมาใช้แพลตฟอร์มนั่นเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืนนัก เพราะว่าต้องจ่ายเงินออกไปก่อนเพื่อให้คนติดและเป็นการตัดคู่แข่งทางอ้อม กล่าวคือ ถ้าหากใครมีเงินเยอะก็จะสามารถครองตลาดได้มาก แต่เป็นการครองตลาดแบบชั่วคราว เมื่อคู่แข่งได้ตายจากไป บริษัทที่มีเงินเหลือก็จะครองความยิ่งใหญ่ในตลาดอุตสาหกรรมนี้ แต่บางครั้งในกระแสโลกาภิวัตน์ของเงินทุนในปัจจุบันนี้ ทำให้มีเงินวิ่งเข้าออกอย่างมหาศาล เมื่อคู่แข่งล้มหายตายจากไป ก็มีคู่แข่งรายใหม่วิ่งเข้ามาในตลาดไม่จบไม่สิ้น จึงไม่ได้การันตีเสมอไปว่าการที่เผาเงินไปกับโปรโมชั่นเพื่อจูงใจลูกค้านั้นจะเป็นการทำให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ใด ๆ ได้แบบสมบูรณ์โดยที่ไม่คิดจะไปใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นของคู่แข่ง จึงมีเหตุการณ์ที่เราเห็นได้ในปัจจุบันก็คือ มีการลดค่าใช้จ่ายด้วยวิธีต่าง ๆ โดยเฉพาะการลดจำนวนคนลงไป มีการปลดพนักงานออกหลายตำแหน่งมาก เหลือไว้เพียงพนักงานที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจต่อไป เพราะว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไปได้ ก็ต้องมีกำไร ไม่ใช่ได้เงินมาจากนักลงทุนเพียงเท่านั้น จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงในวงการการค้าออนไลน์ซึ่งจะทำให้เป็นการเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ โดยสิ่งแรกที่เราจะได้เห็นก็คือโปรโมชั่นก็จะน้อยลง คงเหลือไว้ที่จำเป็นพอดึงดูดลูกค้าได้ และมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ มากขึ้นจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเฉพาะด้านผู้ขายนั้นจากเดิมอาจจะมีการขายสินค้าโดยมีการเก็บค่าธรรมเนียมน้อยหรือแทบไม่เก็บเลย แต่ต่อไปก็อาจจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมมากขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งที่บางครั้งก็จำเป็นต้องร่วมโครงการหรือแคมเปญต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มเพื่อให้ได้ลูกค้า เมื่อมีการตัดสินใจเข้าร่วมมาก ๆ ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามไปด้วย จึงต้องมีการวางแผนให้ดีและรัดกุมมากขึ้น
ทางเลือกอีกทางหนึ่งของผู้บริโภคโดยเฉพาะในประเทศไทยก็คือ การซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางการจัดจำหน่ายแบบ Social Media หรือสื่อสังคมออนไลน์นั่นเอง ซึ่งสื่อสังคมที่เป็นที่น่าสนใจหลัก ๆ ก็คือ TikTok ที่มีความนิยมอย่างสูงมากในปัจจุบันแซงหน้า Social Media เจ้าเดิม เช่น Facebook หรือ Instagram ไปได้อย่างมาก จนทำให้ Facebook มีราคาหุ้นที่ตกต่ำลงและต้องตอบสนองของเติบโตอย่างรวดเร็วของ TikTok ซึ่งในปัจจุบันนั้นผู้ใช้ติ๊กตอกในประเทศไทยมีจำนวนมาก สังเกตได้ว่าคลิปสั้น ๆ บางคลิปมีจำนวนผู้ดูเป็นหลักล้านคน เพราะเป็นแหล่งบันเทิงราคาถูกที่เด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่ว่าวัยไหน ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งประเทศไทยนั้นมีพฤติกรรมผู้บริโภคที่ค่อนข้างพิเศษ กล่าวคือมีจำนวนผู้ซื้อสินค้าผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายแบบช่องทาง Social Media ค่อนข้างมาก นับได้ว่าโดยสัดส่วนแล้วถือเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกก็ว่าได้ ด้วยความที่พฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทยนั้นต้องการทักข้อความไปหาผู้ขายเพื่อมีการพูดคุยสอบถามถึงรายละเอียดสินค้าและอาจจะมีการต่อราคาด้วย นอกจากนี้ประเทศไทยนั้นก็เป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่มีผู้ใช้งาน Social Media อย่างมาก มีระยะเวลาการใช้งานแต่ละวันที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคมีความคล่องเกี่ยวกับการใช้งานสื่อออนไลน์เหล่านี้อยู่แทบจะตลอดเวลา จึงไม่แปลกที่จะมีการค้าขายบนช่องทางเหล่านี้ด้วยนั่นเอง
TikTok เป็น Social Media ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้คนแสดงความสามารถพิเศษของตัวเองออกมา หรือบางคนก็เอาไว้บอกเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันของตัวเอง หรือแม้แต่ทำอะไรที่น่าสนใจ หรือบางครั้งอะไรแปลก ๆ ก็ทำให้คนได้เข้ามารับชมเช่นเดียวกัน จากการที่หลายคนไม่ค่อยได้ออกไปไหนในช่วงระยะเวลาที่มีโรคระบาดอยู่นี้ ก็ทำให้มีการเติบโตของช่องทางบันเทิงแบบนี้มากขึ้นอย่างมาก เพราะเป็นความบันเทิงราคาถูกที่เอาไว้ใช้แก้เครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการมี เนื้อหาหลากหลายเหล่านี้นี่เองก็ทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ ไลฟ์สดขายสินค้า หรือเป็นอินฟลูเอนเซอร์ทางด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว ไลฟ์สไตล์ สัตว์เลี้ยง การเลี้ยงลูก อาหารหรืออื่น ๆ ก็ตามเกิด เป็นแหล่งรวมดาราหน้าใหม่ที่สร้าง Content ขึ้นในแต่ละวัน โดยเป็น Content ที่ใหม่สดและมีปริมาณมหาศาลมากให้ผู้ชมได้รับชมตามความต้องการของตัวเอง เพราะมีการสร้าง Content จำนวนมากและมีความหลากหลายในเรื่องของปริมาณและคุณภาพของเนื้อหาสาระ จึงเกิดเป็นแหล่งรายได้ใหม่ขึ้นมา ทำให้แต่ละคนสามารถสร้างรายได้แบบใหม่ ๆ ได้จากอาชีพเดิม บางคนถึงขั้นเปลี่ยนอาชีพมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์อยู่บนสื่อออนไลน์เลยทีเดียว ซึ่งอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้มีการใช้สื่อออนไลน์หลายช่องทางร่วมกันในการสร้างชื่อเสียงขึ้นมา ตามลักษณะของผู้ใช้งานที่อยู่บน Facebook Instagram TikTok รวมไปถึง Twitter ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งการที่มีแพลตฟอร์มบันเทิงลักษณะนี้ทำให้บริษัทมีเดียแบบเก่า ๆ นั้นต้องพยายามดิ้นรนปรับตัวกันอย่างมาก เพราะว่าไม่จำเป็นต้องให้ใครมาคัดตัวหรือว่าต้องผ่านเวทีประกวดที่ไหน ๆ ถึงจะเป็นศิลปินได้ แต่เพียงแค่มีโทรศัพท์และความกล้าแสดงออกเท่านั้น ก็สามารถกลายเป็นดาราภายในชั่วข้ามคืนได้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ผู้บริโภคนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กล่าวคือ มีพฤติกรรมในการบริโภคทั้งสื่อและการซื้อสินค้าที่ต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง มีการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และมีการทำลายอุตสาหกรรมเดิม ๆ ลง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาคือโรคระบาด และการใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและเกี่ยวข้องกับคนทั้งโลก เหมือนกับการปฏิวัติทางด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่ ที่ทำให้เกิดคนรวยขึ้นจำนวนมากและคนจนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จึงเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนเราทุกคนว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเท่านั้น แต่รวมไปถึงลักษณะของชีวิตความเป็นอยู่ในหลาย ๆ ด้านที่เราต้องมีการเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
การปรับตัวของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแบบออฟไลน์มาเป็นออนไลน์ และจากออนไลน์ไปสู่ออนไลน์บน Social Media นั้นเป็นสิ่งสำคัญในวงการธุรกิจ เพราะว่าถ้าหากไม่เข้าใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว ก็จะทำให้บริษัทเรากลายเป็นบริษัทที่ล้าสมัยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งความล้าสมัยนี้ไม่ได้ใช้เวลายาวนานเลย เพียงใช้เวลาไม่ถึงปีก็กลายเป็นบริษัทโบราณแล้วก็เป็นไปได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรจับตาดูอยู่เสมอก็คือพฤติกรรมของผู้บริโภค กล่าวคือเราต้องมีการสำรวจอยู่ตลอดเวลาว่าผู้บริโภคมีทิศทางในการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง การเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจจะต้องมีการลงทุนมาก แต่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็แทบไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในองค์กรเท่านั้น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การเข้าถึงหัวใจของผู้บริโภคว่าแต่ละคนคิดเห็นอย่างไรบ้างกับโลกของเราที่เปลี่ยนไปตลอดเวลานี้จะทำให้บริษัทของเราเติบโตได้ท่ามกลางความผันผวนของการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้นั้นเอง