โจทย์ใหญ่ทางเศรษฐกิจที่รอรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เศรษฐา ทวีสิน ให้แก้ เพราะประชาชนต่างรอคอยและคาดหวังว่าจะรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน ปัญหารุมเร้าอยู่ขณะนี้ ปัญหาแรกคือหนี้ครัวเรือนของคนไทยมีสัดส่วนอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาโดยตลอด มีการกู้หนี้ยืมสินกันมาก ปัญหาอยู่ที่เป็นหนี้แล้วไม่สามารถใช้คืนได้ เพราะเงินที่ผู้กู้ปล่อยไปให้ยืมกลายเป็นหนี้เสียทันที หนี้เหล่านี้ย่อมเกิดปัญหาตามมาเป็นลูกโซ่ในระบบเศรษฐกิจทันที ซึ่งไทยมีหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 86.8% ต่อ GDP ซึ่งหนี้ครัวเรือนเหล่านี้ไม่รวมกับหนี้นอกระบบของประชาชน จึงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องมาแก้ไขหนี้เสีย โดยออกมาตรการต่างๆมาช่วยเยียวยาโดยเฉพาะปัญหาหนี้นอกระบบประชาชนคนจนต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
ปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งก็คือ ทุนผูกขาดในระบบเศรษฐกิจไทยเพราะธุรกิจขนาดใหญ่ต่างผูกขาดตลาดไว้ในมือ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจรายเล็กๆรายย่อยๆต่างทำมาหากินกันลำบากมากเพราะรายใหญ่ต่างใช้กลยุทธ์การค้า และความได้เปรียบต่างๆแสวงหาผลประโยชน์ผูกขาดตลาดมาตลอด กฎเกณฑ์ต่างๆของภาครัฐก็เอื้อมไม่ถึงดังนั้นรัฐบาลใหม่ จึงต้องขจัดปัญหาการผูกขาดทางการค้าที่แข่งขันกันอย่างไม่เป็นธรรมให้หมดไปจากสังคม และสร้างความเป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นของแพงแต่ค่าแรงถูก ประชาชนไทยได้รับผลกระทบกับปัญหาข้าวยากหมากแพงอย่างสาหัส สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยยังสูงอยู่มากเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน ซึ่งส่งผลต่อปากท้องของประชาชนอย่างหนัก รอการแก้ไขอย่างเร่งด่วนจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ เพราะช่องว่างของระหว่างคนรวยกับคนจนห่างกันมากเหลือเกิน คนมีเงินกินอาหาร 1 จานในห้าง ฯ ก็เท่ากับค่าแรงของผู้ใช้แรงงาน 1 วัน
ปัญหาคนแก่ล้นโลก ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ เพราะประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีสัดส่วนมากถึง 20% ของประชากรทั้งประเทศ เหมือนกับประเทศที่เจริญแล้วอื่นๆ เด็กเกิดใหม่น้อยลงมาก อัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรติดลบ ปัญหาสังคมคนสูงวัย จึงส่งผลกระทบต่อภาระของประเทศที่ต้องแบกรับการดูแลคนสูงวัยในระบบสวัสดิการต่างๆที่เพิ่มขึ้น มากขึ้น จึงเป็นภาระหนักและใหญ่ของงบประมาณของรัฐที่ต้องจัดมาดูแลคนสูงวัยที่นับวันจะทวีมากขึ้นเรื่อยๆในสังคมไทย
ปัญหาเหล่านี้จึงเป็นปัญหาเรื้อรังที่เป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาล ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” ต้องมาแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ประชาชนก็จะเดือดร้อนน้อยลงและมีความสุขเพิ่มขึ้น เป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยให้ดีขึ้น.