เริ่มต้นจากธุรกิจสปาเล็ก ๆ ด้วยความตั้งใจทำบริษัทเป็น Small & Beautiful เมื่อ 17 ปีที่แล้ว กลายเป็นผู้นำด้านสุขภาพความงามและผลิตภัณฑ์เครื่องหอมอันดับหนึ่งในตลาดระดับสากลภายใต้แบรนด์ “ดีวานา” ( Divana ) ธุรกิจสปาระดับพรีเมียมที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน นับเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจรุ่นใหม่มากมายที่จะได้เคล็ด (ไม่) ลับ ซึ่งคุณพัฒนพงศ์ รานุรักษ์ หรือคุณตี๋ ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง ดีวานา สปา มาแชร์ประสบการณ์ เล่า Key Success ของธุรกิจ ผ่าน Advanced Business Magazine (ABM)
ความเป็นมาของดีวานา สปา
“ Divana มาจากการทำสปา เมื่อปี 2001 ซึ่งคนไทยในเวลานั้นยังไม่เป็นที่รู้จักเรื่องสปาเลย แต่พวกเราซึ่งได้ทำงานสายการบินสวิสมาก่อน เมื่อบินไปถึงสวิสเซอร์แลนด์ สิ่งที่เราทำคือ สปา พอกลับมาเพื่อนสนิทคือคุณธเนศ จิระเสวกดิลก(คุณโทนี่) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร ดีวานา อีกท่านหนึ่ง ขณะนั้นคุณโทนี่ได้ทำวิทยานิพนธ์ เรื่อง สปา และประจวบเหมาะกับการที่สายการบินสวิสเลย์ออฟคนที่เป็น Non-Swiss จึงนับว่าเป็นโอกาสดีที่ได้เริ่มต้นทำธุรกิจสปา
… จากวันนั้นถึงวันนี้ เราก็เริ่มทำธุรกิจสปา และแตก lineในเรื่องของธุรกิจสุขภาพ เริ่มต้นเราตั้งใจจะทำธุรกิจในเชิงสุขภาพและตั้งใจทำบริษัทเป็น Small & Beautiful แต่พอทำได้สักระยะหนึ่ง ธุรกิจก็เริ่มติดตลาดและเป็นข่าวโด่งดัง ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากมาใช้สปาของเราจนถึงทุกวันนี้
จากปี 2001 จนถึงวันนี้มี 8 สาขา กับอีกผลิตภัณฑ์ใน 2 แบรนด์ มีแบรนด์ดีวาน่าที่เกี่ยวกับ Cultural Heritage กับ แบรนด์ Dii ที่เป็นเรื่องของ Medical Spa และก็ล่าสุดมีเปิดคาเฟ่ Customers’ Experience พอสถานการณ์ตลาดปรับเปลี่ยนไปและเราพยายามมองช่องทางสร้าง Valued Added ให้กับลูกค้าด้วย ทำร้าน Divana Signature Café ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2 โซน Atrium และทำให้เราค่อนข้างประสบความสำเร็จ จะเปิด Medical Spa อีกที่หนึ่งที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 5 และเตรียมจะเปิด Dinava Sanctura Spa ที่ซอยสมคิด ชิดลม จะเป็นสปาใหญ่เปิดบริการเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคม 2561 และเตรียมขยายสู่หัวเมืองท่องเที่ยวอีกอย่างน้อย 4 สาขาในปีหน้า และมีโครงการเปิด ดีวานา ที่พัทยา และทยอยจะมีโปรเจคที่มหานครในต่างประเทศเช่น ดีวานา สาขาลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเร็ว ๆ นี้
…ใน 2-3 ปีนี้นับได้ว่าเป็นปีที่เราเติบโตค่อนข้างมากเนื่องจากเราอยากทดลอง เราเป็นพวกอยากรู้อยากเห็นอยากทดลอง ว่าอะไรเราสงสัยอะไรเรามักจะทำทันทีและทำให้ดีวานาเกิดปรากฎการณ์ใหม่ ๆ ในตลาดอยู่เสมอครับ “
ตลาดหลักโดยรวมของ ดีวานา
“ ถ้าเป็นของแบรนด์ “ ดีวานา ” ได้รับการตอบรับจากลูกค้าจากทั่วโลก เริ่มต้น เป็นชาวสวิส เยอรมัน สแกนดิเนเวีย อิตาลี ปัจจุบันเมื่อลูกค้าชาวยุโรปมาใช้บริการมากแล้ว ก็จะมีลูกค้าชาวญี่ปุ่นและเกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน จีน Middle East CLMV อีกด้วย แบรนด์ “ ดีวานา ” 90 % จะเป็นลูกค้าชาวต่างประเทศ ส่วนแบรนด์ “ Dii ” ครึ่งหนึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ครึ่งหนึ่งจะเป็นคนไทย ”
สาขา ดีวานา ในปัจจุบัน
“ ตอนนี้ถ้าเป็น “ ดีวานา ” ยังอยู่ที่กรุงเทพ ฯ นะครับ เซอร์วิสทั้งตัวสปาทั้งแบรนด์ ดีวานา ยังอยู่ที่กรุงเทพ ฯ กำลังเริ่มทยอยเปิด เนื่องจากผมเพิ่งออกจากสายการบินได้สักประมาณ 3 – 4 ปี แต่ในตัวผลิตภัณฑ์เรามีจำหน่ายโดยมีสาขาที่ คิงพาวเวอร์ ,สนามบินสุวรรณภูมิ และไปจนถึงร้านค้าและจุดจำหน่ายอีกกว่า 70 แห่ง ในเซ็นทรัล , เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม สยามพารากอน ในร้าน Sasa ที่ฮ่องกง , ญี่ปุ่น และห้าง Barney New York ”
ผลการดำเนินงานของ ดีวานา
“ ผลการดำเนินการจากปีที่แล้วถึงปีนี้เราเติบโตประมาณเกือบ 3 เท่า ถึงสิ้นปีนี้ถ้าครบ คาดว่าเราจะโตประมาณ 5 เท่า ก็ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด เผอิญว่าเรามีพี่เลี้ยงดีมีธนาคาร SCB คอยเป็นโค้ชให้เรา จึงทำให้ปีนี้เราเติบโตมากขึ้นมากครับ ”
การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับบริษัท
“ ในปัจจุบันเราปฏิเสธเรื่องดิจิตอลไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสงสัยและค้นหาและทดลอง Platform ไม่ว่าจะเป็นระบบหลังบ้านที่เป็นระบบ Operation ทั้งหมด ตอนนี้ผมได้ทำระบบในแผนกบัญชีการเงิน ฝ่ายบุคคล และทุกอย่างออนไลน์ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้เราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และในส่วนของการตลาดเราก็สร้าง Innovation ใหม่ ๆ เรามีการสื่อสารกับลูกค้า และเราเน้นการดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี เราจะพูดเสมอว่า เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ดีวานา จะต้องดูแลลูกค้าตั้งแต่ตื่นจนหลับ ตอนหลับเราก็ยังดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นเราดูแลลูกค้าเป็นอย่างดีและเราจะเป็นเพื่อน เป็นคนที่คอยสนใจลูกค้าตลอดเวลาด้วยครับ ”
Key Success Factor ของ ดีวานา
“ Key Success Factor ของเรานี้ ผมใช้ WOM ก็คือ Word Of Mouth คือทำสินค้าบริการให้เกิด Wow Concept การบอกต่อกัน เพราะฉะนั้นเราทำการสื่อสารการตลาดนี้ใน P ตัวอื่น ๆ ของ Pricing เราก็สามารถตั้งราคาได้ เพราะว่าเราไม่ต้องชนกับคู่แข่งตรง ๆ ในเรื่องของช่องทางการจัดจำหน่าย เรามีความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นในเรื่องของการทำโปรโมชั่นพีอาร์ต่าง ๆ นี้ ปัจจุบันลูกค้าทำแทนเราเป็น Micro Influencer นะครับ อย่างเราทำ IG ขึ้นมาอันหนึ่งนี้ เรา Post อีก 20 กว่าอัน ลูกค้า post ไป 1,000 กว่าคน นำลูกค้ามาจำนวนมาก เพราะฉะนั้นพฤติกรรมของผู้บริโภคนี้ เราจำเป็นที่จะต้องให้ความสนใจมาก ผมจะพูด 2 คำเสมอ ในการทำธุรกิจเราจะพูดถึง Micro Behavior และ Macro Trend 2 ตัวนี้ ถ้าเราจับได้และเรามีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สร้างมาด้วย Valued นี้เราก็จะเกิดปรากฎการณ์ใหม่ๆ ลูกค้าจำนวนมากก็จะเกิดความสนใจ ก็จะติดตามเราอยู่เสมอครับ ”
สภาวะธุรกิจและการแข่งขันเรื่องของสปาในทุกวันนี้
“ ขณะนี้ตลาดของสปาแข่งขันสูงมากอยู่แล้วในเรื่องของตัวผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและผลิตภัณฑ์สปาก็แข่งขันสูงเช่นกัน ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อด้อย พอเกิดการแข่งขันขึ้น ทุกคนจะเก่งขึ้นและขยัน เพราะฉะนั้นก็ยกทั้งระบบเลย ไม่เฉพาะคนไทยที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ คนทั่วโลกก็บินเข้ามาเพื่อที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและสปาไทย จึงกลายเป็นโอกาส ถ้าใครมีลูกเล่นนวัตกรรมใหม่ๆ มองเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคแตกต่างจากคนอื่นๆ แล้วมันชนกับความต้องการของเขาพอดี ก็สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เฉพาะตลาดในประเทศไทย แต่มันเป็นตลาดโลกไปเรียบร้อยแล้ว ”
ความแตกต่างของลูกค้าฝั่งยุโรปและเอเชีย
“ความจริงค่อนข้างแตกต่างนะครับ พฤติกรรมของผู้บริโภคมีรายละเอียดมากมาย เช่นลูกค้าชาวยุโรปไม่ชอบขาว มาฝั่งลูกค้าชาวเอเชียชอบขาว อันนี้เห็นได้ชัดเจน การแช่น้ำถ้าเป็นคนญี่ปุ่นต้องแช่น้ำอุณหภูมิ 39 – 40 องศา ถ้าเป็นคนยุโรป แช่น้ำอุณหภูมิ 36-37 องศาอย่างนี้ เพราะฉะนั้นถ้าใครทำละเอียดกว่ากัน ผู้นั้นคือผู้ชนะ ใครละเอียดฉลาดกว่า วาง Platform ได้ดีกว่าก็จะสามารถนำตลาดได้ก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้ตลอดไป ไม่มีอะไรที่คุณชนะแล้วจะชนะตลอดไปเพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำคือ เราต้อง Dynamic เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการยุคใหม่จำเป็นต้องมีการปรับตัวและอยู่ในระบบนิเวศน์ที่มีการปรับตัวและเคลื่อนไหวตลอดเวลา สิ่งนี้เป็น Key Success ที่สำคัญของการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน”
ดีวานา สปาระดับพรีเมี่ยม
“ เราก็วางตัวเองเป็นพรีเมียม เราวางทั้งเป็นพรีเมียมของงานบริการ และเป็นพรีเมียมของตัวเครื่องหอมและผลิตภัณฑ์สปาและสกินแคร์ เราวาง Positioning เราเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติที่ผสมผสานเอาวัฒนธรรม ไม่จำเป็นจะต้องเป็นของไทย เรามองของไทยในความหลากหลาย ภาคเหนือแบบหนึ่ง ภาคใต้ก็อีกแบบหนึ่ง รวมถึงการเอาวัฒนธรรมของคนเอเชียผ่านเข้ามาในประเทศไทยนี้ครับ ดีไซต์ออกมาเป็นสินค้าบริการใหม่ ๆ ซึ่งเราออกสู่ตลาดตลอดเวลาครับ ”
จุดเด่นของ ดีวานา สปา
“ จุดเด่นของเราคือด้านงานบริการ เผอิญตัวผมเองเคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ ทำงานภาคพื้นตลอดเป็นระยะเวลา 17 ปี เพราะฉะนั้น สิ่งที่เรามีคือความอ่อนน้อมถ่อมตน ที่สำคัญเรารู้ใจลูกค้าว่าเขาต้องการอะไร เราไม่ใส่มากเกินไปจนเขารู้สึกอึดอัด เราไม่ใส่น้อยจนเขารู้สึกว่าเราขี้งก เราใส่ใจลูกค้าด้วยความลงตัวพอดี จุดสำคัญเลยคือ เราต้องใส่ลงในสัดส่วน อุณหภูมิ เวลา ทุกอย่างต้องลงตัวพอดี เพราะฉะนั้นจึงทำให้ลูกค้าไปบอกต่อ ในการทำธุรกิจ “ ดีวานา สปา ” เราถือคำหนึ่งว่า Not Only Satisfaction But Impression คือลูกค้าเข้ามาใช้บริการของเรานี้ ไม่ใช่เข้ามาแค่เราหวังแค่ความพึงพอใจ เราคาดหวังคือ เราสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ”
การผนึกกำลังทางธุรกิจ collaboration กับพันธมิตร
“ ปีนี้เป็นปีที่สำคัญของ “ ดีวานา ” เลยนะครับ สิ่งที่เราทำคือการเดินหน้าสู่ความเป็นผู้นำอย่างยั่งยืน เราทำเรื่อง Sharing อยู่เสมอ แต่ปีนี้มากกว่าการ Sharing เราทำเรื่องของ collaboration ปีนี้สิ่งที่เราทำอย่างที่ผ่านมา เราจับมือเป็นพันธมิตรกับการบินไทย , กับธนาคารไทยพาณิชย์ SCB , ทำกับ The I Card และล่าสุดเราทำกับแบรนด์ล่าสุดเราไปทำกับแบรนด์แฟชั่นหรูชื่อดังของไทย Poem เราเพิ่งจัดงานไป มันดู WOW เพราะว่าทุกคนถามว่าเราไปทำอะไรกับ Poem ทำไม Poem ถึงมาทำกับ ดีวานา ปรากฏว่าเอฟเฟคตัวนี้แหละครับที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ขึ้นมา ทำให้คนอยากรู้ พออยากรู้ แต่พอมาเห็นปั๊ปแล้วก็ทำให้ทุกคนแชร์ล้นหลามมาก และการส่งผ่านเรื่องของการสื่อสารมวลชนไปไกลมาก ทุกคนช่วยกันแชร์ ช่วยกันโพสต์อย่างมหาศาล อันนี้เป็นสิ่งที่เราสนุกมากในการทำงานครับ ”
แผนงานในอนาคตของ “ดีวานา สปา”
“ สำหรับปีนี้ส่วนมากน่าจะอยู่ในกรุงเทพ ฯ เกือบทั้งหมด ที่จะเปิดประมาณสัก 4 สาขา และปีหน้าเราก็จะเริ่มเปิดสาขาในต่างจังหวัดบ้าง ในปีถัด ๆ ไป เรามีโปรเจคที่เราดูแมชกับดีล แล้วก็มีความสนุกของเรา ว่าต่างประเทศเป็นประเทศไหนต่อไป ”
สิ่งที่เป็นความสำเร็จ และความล้มเหลวของธุรกิจสปา
“ ความสำเร็จ หรือ ความล้มเหลว ผมว่าจริงๆ ตัวหนึ่งที่สะท้อน ก็คือ ความพึงพอใจของลูกค้า ถ้าลูกค้าพึงพอใจ ผมถือว่าเราทำงานบริการ แม้กระทั่งเราขายสินค้า “ ดีวานา” ไม่เคยขายสินค้าอย่างเดียว แต่ ดีวานา ขายสินค้าบวกบริการเสมอ นั่นแปลว่าก่อนที่จะทำสินค้าออกมา เราจะดูว่าลูกค้าต้องการอะไรจากจำนวนลูกค้านับล้านราย ที่ใช้กับเรา ตอนที่ทำงานอยู่ เราก็ให้สปาผ่านคลีนิค ผ่านคุณหมอที่อยู่กับเรา ใช้เสร็จเมื่อมีปัญหา มีข้อสงสัยในวิธีการใช้ถามเรา เราจะจัดการให้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราทำ ตัวนี้มันเหมือนเป็น Network ที่มันเกิด Matrix ซึ่งจะทำให้ลูกค้าอยู่กับเรา ในเรื่องของความเชื่อมั่นในเรื่องของความสมหวัง เพราะฉะนั้นผมถือว่าเป็น Key Success อย่างหนึ่ง
…ส่วนเรื่องความล้มเหลว ผมมองว่าในเรื่องของสปา จะเป็นในเรื่องของความล้มเหลวที่เราจำเป็นในอุตสาหกรรมสปาทั้งหมด จำเป็นที่เราต้องระวังในเรื่องของความหมิ่นเหม่ทางเพศนะครับ ต้องแยกให้ออกว่าที่เราทำนี้เป็นงานบริการ มันเป็นการดูแล เราเรียกว่า Sensory Design เราดูแล Scents ในเรื่องทั้งหมด รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ดีวานา ทำมากกว่านั้นคือ ทำเรื่อง Soul ทำเรื่อง Imagination เพราะฉะนั้นเวลาลูกค้าเข้ามาในสปา หรือใช้ผลิตภัณฑ์ เราก็ต้องสามารถที่จะบำบัดไม่ใช่แค่ รูป รส กลิ่น เสียง เท่านั้น แต่สัมผัสไปถึงใจ และไปถึงตัวจินตนาการด้วย นี้คือ Key Success ของเรา เพราะฉะนั้นตัวที่จะทำไม่Success อุตสาหกรรม จำเป็นที่ต้องระมัดระวัง คือ เรื่องความหมิ่นเหม่ทางเพศ อันนี้เป็นสิ่งที่อุตสากรรมสปาต้องช่วยกัน เพื่อช่วยให้ประเทศไทย มี Brand Image ในเรื่องของสปา และเป็นผู้นำต่อไป ”
การพัฒนาบุคลากรของ ดีวานา
“ เรื่องของการพัฒนาบุคลากร อันนี้ผมอาจต้องย้อนให้เครดิตกลับไปที่ สายการบินที่ผมเคยทำคือ สายการบิน Swiss Air ซึ่งมีระบบเรื่องการฝึกอบรม Training มาตรฐานที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ทฤษฎี แต่ในเรื่องของการปฏิบัติเขามีความแข่งแกร่ง แล้วก็ใช้งานได้จริง ๆ อันนี้เราจึงดึงระบบของสายการบินมาใช้อยู่ในสปา ในขณะเดียวกันเราใส่ Oriental Wisdom เข้าไปในการบริการ เวลาที่คนมา ดีวานา อาจจะเจอบ้านอายุ 100 ปี อาจจะมองว่าอันนี้คือ Heritage แต่ความจริงแล้ว Heritage ที่เราใส่เข้าไปนี้ ก็คือการดูแล วัฒนธรรมการดูแล เพื่อนบ้าน แขกผู้ใหญ่ รวมไปถึงจิตใจ แม้กระทั่งตัว Core Value ของพนักงานเอง เราโปรโมทเรื่องความกตัญญู เชื่อว่าความกตัญญูมันเป็น Core Value เพราะฉะนั้นเราต้องเก็บไว้ สร้างให้เรามีความแข็งแกร่งและโดดเด่นกว่าองค์กรปกติทั่วไปครับ ”
บุคคลต้นแบบ Idol
“ จริง ๆ Idol ของผมมีเยอะมาก เราเชื่อเรื่องหลักกาลามสูตร ที่ว่าเราไม่เชื่อหนังสือ เราไม่เชื่อคน เราไม่เชื่อใคร เราต้องพิจารณาแล้วก็เชื่อในสิ่งที่มันควรและสมควรเป็นตักกะที่ถูกต้อง แต่ว่าเราปฏิเสธไม่ได้ ผมมี Idol หลายคน เพราะฉะนั้น Idol ของผมไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ ดร.พิภพ อุดร ไม่ว่าจะเป็น Roger Federer ที่พร้อมที่จะแข่งขัน ไม่ว่าอายุจะเยอะแค่ไหนก็ยังรู้สึกว่าตัวเองพร้อมที่จะเป็นแชมป์เปี้ยน Elon Musk ที่เป็น Idol ในเรื่องของนวัตกรรม ความกล้าต่าง ๆ แม้กระทั่งน้าชายของผมอีกท่านหนึ่งที่สอนผมเรื่องการทำธุรกิจ
…Idol ของผมอาจจะไม่เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ของโลก แต่ Idol ของผมนี้ Drive ตัวเองได้ โดยดึง element และสิ่งที่เป็นมุมมองที่สุด Idol จะต้อง Create Identity ในตัวเรา สิ่งนี้ แต่บุคคลต้นแบบระดับโลกของผม ตอนนี้ก็พูดถึงตลอดเวลาก็คือ Einstein คิดถึงเรื่องที่ Einstein โพสต์ไว้ก็คือว่า เขาพูดว่า Imagination สำคัญกว่า Knowledge ที่สำคัญกว่าอะไร เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ ผมก็จะอยู่ในโลกของการจินตนาการเยอะมาก จินตนาการไปข้างหน้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นนะครับ ”
ข้อคิดฝากถึงคนทำธุรกิจที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
“ เราทำอะไรได้อันดับที่ 1 เวลาที่ทุกคนทำงาน ทุกคนจะพูดถึงเรื่อง Passion กันเยอะ ซึ่งผมก็เชื่อว่าเป็นความจริง เพราะถ้าไม่มี Passion เราทำไปสักพัก เราก็จะหมดแรง เพราะฉะนั้น Passion มันจะอยู่กับเราได้อย่างไร เราต้องใช้ดีไซน์ มันต้องออกแบบให้เรามี Passion
…อย่างเช่น ธุรกิจของผม คือดีวานา คำว่า Dinava แปลว่า Crazy Love หรือแปลว่า Passion เพราะฉะนั้นเราใส่ไว้ในชื่อนั้นเลย เวลาที่เราจะทำงาน โดยมีเป้าหมายที่ชัด มีสิ่งที่เราอยากจะทำจริง ๆ เมื่อเวลาทำงาน เราก็จะทำด้วยความรักที่ไม่มีวันเหนื่อย มักมีคนถามว่าทำงานเยอะมากไม่เหนื่อยหรือ บอกว่าเหนื่อยหน่อย พอตื่นขึ้นมา เวลาหลับปุ๊ปจะหลับสนิท พอตื่นขึ้นมาก็จะทำงานได้เยอะ เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องดีไซน์ เราสนุกกับการทำงานทุกวัน เพราะฉะนั้นการดีไซน์ การแก้ปัญหาต่าง ๆ ก็จำเป็นครับ ”
…อันดับที่ 2 ในเรื่องของ Innovation คือการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยสร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของฐานลูกค้าที่จะเจาะเข้าไปในวงกว้างขึ้น อันนี้ขาดไม่ได้ ต้องสร้าง Value Added เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องมีนวัตกรรม อย่าคิดว่านวัตกรรมเป็นสินค้า เป็นอิเล็กทรอนิกส์ แต่จริง ๆ แล้ว งานบริการของผมก็มีนวัตกรรม การทำงาน Process ต่าง ๆ ก็มีนวัตกรรมได้ อันนี้จะเป็นที่จะต้องทำถัดไป
…ในเรื่องของการ Sharing จำเป็นยิ่ง เรายิ่งแชร์ เรายิ่งเก่ง ผมเชื่อเรื่องนี้แล้วก็สิ่งสำคัญ คือเราจะได้หาตัวตนของเราได้เจอนะครับ ถ้าสมมติว่า เราทำสินค้าเหมือนคนอื่นตลอดเวลา สมองในเรื่อง Creativity มันจะลดลง เวลาทำเหมือนคนอื่นครั้งแรกมักจะดี ยอดจะขึ้นสูง แต่พอทำไปสักพัก ยอดจะตก แล้วพอคิดเรื่องใหม่คิดไม่ได้ ต้องไปทำแบบเดิม ปรากฏว่าคนที่หนี หนีได้ดีกว่า ถ้าเราทำไม่ได้เสร็จ ไม่มีของขายไม่มีงานบริการดี ๆ เพราะฉะนั้นเราต้องฝึกฝนตัวเองให้คิดสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
อีกอันเรื่องการแข่งขัน ผมคิดว่าไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้น แม้แต่คนทั่วโลกก็เช่นกัน ชอบกลัวแพ้ ผมจึงมี Roger Federer เป็น Idol เพราะคน ๆ นี้ จะบอกกับตัวผมเสมอว่า คุณแข่งขันได้ตลอดเวลา อายุไม่เป็นสิ่งสำคัญเลย เมื่อคุณแข่งขันคุณมีน้ำใจนักกีฬา คุณจะพร้อมแข่ง ทุกครั้งที่คุณเข้าแข่งขัน คุณจะต้องเรียนรู้ว่าการชนะเป็นอย่างไร การพ่ายแพ้เราจะเรียนรู้ เพื่อให้ชนะได้อย่างไร เราเรียนรู้อะไรบ้างจากการที่เราได้เข้าแข่งขัน
เพราะฉะนั้นอยากให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ มองเรื่องการแข่งขันเป็นการเรียนรู้ และเป็นการพัฒนาศักยภาพตัวเอง นะครับ สิ่งสำคัญที่สุดต้องมีน้ำใจเป็นนักกีฬา เวลาที่เรามีน้ำใจนักกีฬา เราก็จะสนุกกับการแข่งขัน แล้วเราจะพร้อมแข่งขันเสมอ แล้วทุกครั้งที่เราแข่งขันเราจะเก่งขึ้นครับ อยู่ที่คุณจะเก็บมันหรือจะอยู่กับความพ่ายแพ้ตลอดไป อันนี้ก็แล้วแต่คุณจะคิด แต่ส่วนตัว ผมมอง Roger Federer เป็น Idol เพราะฉะนั้นเราก็จะพร้อมแข่ง อายุจะเยอะเท่าไหน เราก็อยากแข่งอยู่นะ เราทำตัวให้ฟิตตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแมชไหนเราก็สู้ครับ”.