หม้อแปลงไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยหลักที่นำพลังงานไฟฟ้ามาหล่อเลี้ยงให้กับทุกธุรกิจ ในการเลือกใช้หม้อแปลงไฟฟ้าแต่ละครั้งจำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพราะหากธุรกิจเกิดการสะดุด อันเนื่องมาจากการชำรุดของหม้อแปลงไฟฟ้านั้น อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
คุณดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอกรัฐวิศวกรรม (AKR) ผู้บริหาร หม้อแปลงไฟฟ้า “ เอกรัฐ ” ผู้บริหารผู้มีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวที่กล้าปกป้องความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยรับประกันคุณภาพหม้อแปลงยาวนานถึง 10 ปี สำหรับหม้อแปลงทุกชนิดที่ผลิตโดย “ เอกรัฐ ” และสำหรับลูกค้าทุกรายที่ติดตั้งใช้งานในประเทศไทย
- การดำเนินงานปัจจุบัน และอนาคต
ของหม้อแปลงไฟฟ้า ธุรกิจโซลาร์เซลล์ และแผงโซลาร์เซลล์
สำหรับการดำเนินการเป็นเวลากว่า 30 ปีเรามียอดขายในอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง นับจากวันแรกของการก่อตั้งบริษัท ฯ เราไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาคุณภาพหม้อแปลงไฟฟ้า และยังเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “ เอกรัฐ ” ให้มีมาตรฐานและมีความทนทาน สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุก ๆ ด้าน อีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
ส่วนธุรกิจโซลาร์เซลล์นั้นเกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์อันยาวไกลของทีมผู้บริหาร ได้เล็งเห็นความสำคัญและความต้องการสำหรับแหล่งพลังงานสะอาดในการผลิตกระแสไฟฟ้า จึงได้จัดตั้งสายงานพลังงานแสงอาทิตย์ ( Solar cells ) และแผงโซลาร์เซลล์ ( Solar panels) พร้อมทั้งให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งในขณะนี้เป็นประเภทธุรกิจที่กำลังพุ่งแรงในเรื่องพลังงานทดแทน เราจะเห็นได้ว่าภาครัฐก็ยังมีมาตรการส่งเสริมการใช้ด้วย
เราเป็นโรงงานผู้ผลิตตัวเซลล์ และผลิตแผงโซลาร์เซลล์ด้วยความชำนาญและรู้จริงในเรื่องของโซลาเซลล์ การที่จะไปติดตั้งทำโซลาฟาร์ม หรือ โซลาร์รูฟบนหลังคา เรามีความเชื่อมั่นว่า เราเป็นบริษัทที่มั่นคง สามารถอยู่กับบริษัทลูกค้าได้ยาวนานตลอดอายุแผง ซึ่งแผงโซลาร์เซลล์นี้มีอายุ 25-30 ปี ด้วยจุดเด่นตรงนี้ทำให้ลูกค้าสนใจและมาสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา เรามีความแตกต่างจากผู้รับเหมารายอื่นซึ่งเขาไม่ได้เป็นผู้ผลิตเช่นเรา
ปัญหาและอุปสรรคของ “ หม้อแปลงเอกรัฐ ”
เนื่องจากบริษัทของเรา ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าได้สูงกว่ามาตรฐาน เพื่อยืนยันถึงคุณภาพที่ดีที่สุดของหม้อแปลงไฟฟ้า “ เอกรัฐ ” โดยให้การรับประกันคุณภาพหม้อแปลงไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศเป็นเวลาถึง 10 ปี ซึ่งเริ่มต้นเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยหรืออาจจะเป็นเจ้าแรกในโลกก็เป็นได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันว่าหม้อแปลงไฟฟ้า “ เอกรัฐ ” เต็ม KVA จริง และมีความทนทานต่ออุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาของการใช้งานอันยาวนาน
ในขณะเดียวกันหม้อแปลงไฟฟ้าซึ่งเป็นเครื่องจักรชนิดหนึ่งที่ต้องบำรุงรักษาเป็นประจำด้วยความถูกต้อง ดังนั้นในระหว่างการรับประกันคุณภาพ 10 ปี หม้อแปลงจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาดังกล่าวซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยต่อปี พร้อมตั้งศูนย์บริการและขายครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 10 ศูนย์ ในขณะที่ผู้ผลิตรายอื่นรับประกันเพียงแค่ 2 ปี เพราะฉะนั้นเวลาที่จะไปขายสินค้าแล้วนี้ จะมีอุปสรรคตรงที่ว่าราคาของเราจะสูงกว่ารายอื่นบ้างสักเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบกับในเรื่องคุณภาพและการรับประกันแล้ว หม้อแปลงไฟฟ้าของเราจะดีกว่า
- กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ หม้อแปลง “ เอกรัฐ ”
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้า จะมุ่งเน้นไปที่ลูกค้ารัฐวิสาหกิจและลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยกลุ่มลูกค้ารัฐวิสาหกิจ เราจะมีลูกค้าที่สำคัญ ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าภูมิภาค โดยบริษัท ฯ จะเข้าร่วมประกวดราคากับรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่งเป็นประจำ ซึ่งบริษัท ฯ เราสามารถชนะการประกวดราคาได้อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายของเรา สามารถแข่งขันกับบริษัทอื่นได้ทั้งในเรื่องคุณภาพและราคา
สำหรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะมุ่งเน้นอุตสาหกรรมที่มีการขยายงานสูงซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่ใช้หม้อแปลงระบบจำหน่ายจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมปิโตรเลียม อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมสื่อสาร อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมโรงแรมและท่องเที่ยว ฯ โดยการจำหน่ายแก่ลูกค้าภาคเอกชนจะเน้นการจำหน่ายผ่านกลุ่มลูกค้าเป้าหมายต่าง ๆ
- ปัจจุบันโลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจต่างๆ ควรมีวิธีปรับตัวและตั้งรับ
เนื่องจากสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นสินค้าอุตสาหกรรม ในเรื่องของดิจิตอล เป็นเรื่องคนละตลาดกัน ดิจิตอลมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่สำหรับหม้อแปลงไฟฟ้านี้ ขอเรียนว่า อีกประมาณ 30 ปี ยังไม่มีอะไรมาทดแทนหม้อแปลงได้ แม้แต่ญี่ปุ่น หรือสหรัฐอเมริกา ก็ยังใช้หม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ เพราะฉะนั้นคงไม่มีผลกระทบอะไรในขณะนี้
เมื่อเทคโนโลยีดิจิตอลปัจจุบันมีผลน้อยกับสินค้าอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้า อันนี้เราต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นเราก็จะได้ปรับเปลี่ยนแปลงเราก็สนใจและพัฒนาในระบบดิจิตอลของเราที่ผ่านมานี้ อย่างเช่น ตัวอย่างการออกแบบหม้อแปลง เราจะใช้โปรแกรมออกแบบหม้อแปลง สมัยก่อนวิศวกรของเราใช้ระบบ Manual ทั้งหมด แต่ปัจจุบันนี้เรามีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีมาปรับเปลี่ยน มีการเปลี่ยนแบบ เราคีย์เข้าไปปุ๊บ แบบจะเปลี่ยนใหม่เลย ตอนนี้เรากำลังใช้อยู่
- การทำงานอยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนและส่งเสริม
ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมของเรายังไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนที่ดีพอ รัฐยังไม่ได้สนับสนุนสินค้าในประเทศของคนไทย บริษัทของเรานี้เป็นบริษัทของคนไทย 100% อย่างเช่น รัฐยังมีการวิจัยอะไรต่างๆ ออกมา สำหรับงานวิจัยนี้ บริษัทเป็นคนวิจัยเอง ซึ่งการวิจัยของเราอยู่ในระดับหนึ่งที่ไม่ต้องใช้เงินมาก แต่ถ้าเป็นเงินระดับ 100 ล้านบาท อย่างนี้บริษัท ฯ ก็ไม่สามารถที่จะไปทำการวิจัยได้ จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยสนับสนุนตรงนี้ และอยากให้รัฐช่วยหาตลาดในต่างประเทศให้เราด้วย
- ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ หรือความล้มเหลว
ในเรื่องความสำเร็จ ผู้บริหารจะต้อง
1.รู้ลึก รู้จริงในธุรกิจที่จะทำ และมองอนาคตของจังหวะให้ดี อันนี้คือสิ่งสำคัญ เพราะปัจจุบันธุรกิจในเรื่องพลังงานโซลาร์เซลล์นี้ ถ้าเข้ามาช่วงนี้ ถือว่าถูกจังหวะ ถ้าเข้ามาก่อนหน้านั้นต้นทุนยังสูง นั้นคือความสำเร็จในข้อแรก
2.สินค้าต้องมีคุณภาพ อันนี้แน่นอนเพราะบริษัทของเราทำอยู่แล้ว เราต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับภาครัฐ เพราะว่ายิ่งในปัจจุบันนี้ ในช่วงตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารมานี้ ต่างประเทศจะหยุดชะลอโครงการทั้งหมด จะมีโครงการที่เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศ ฉะนั้นเราก็ต้องมีความสัมพันธ์กับภาครัฐ ที่เราจะไปเสาะหา หรือว่าภาครัฐจะลงทุนอะไร ทำอะไร
ส่วนถ้าผู้บริหารไม่มีความรู้ลึกจริง ๆ ทำไม่ได้จริง ๆ สินค้าไม่มีคุณภาพอย่างนี้ ไม่ประสบความสำเร็จแน่นอนครับ
- ปัจจัยที่จะสามารถแข่งขันส่งสินค้าไปต่างประเทศ
สินค้าจะส่งออกไปแข่งขันในต่างประเทศได้นั้น
1.สินค้าต้องมีคุณภาพ
2.ราคาต้องถูก แต่การที่จะให้ราคาถูกได้นั้น ภาครัฐต้องช่วยสนับสนุน เช่น เรื่องยกเว้นภาษีอะไหล่ ให้กับธุรกิจของคนไทยที่จะออกมาแข่งขันในตลาดโลก
- วิธีที่ทุนเล็ก ๆ อยู่ได้ท่ามกลางทุนขนาดใหญ่
ต้องให้ภาครัฐออกนโยบายเกี่ยวกับเรื่องบริษัททุนขนาดใหญ่ คือธุรกิจที่จะให้ SMEs แต่ละรายทำ รัฐบาลต้องกำหนดออกมาเป็นหลักการว่า ธุรกิจแบบนี้ทุนขนาดใหญ่เข้ามาได้ไม่เกิน 50-60 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือให้ SMEs ทำ แต่ปัจจุบันไม่ใช่อย่างนั้น ธุรกิจทุนขนาดใหญ่ 100 เปอร์เซ็นต์ไปเลย นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ
- มุมมองแนวคิดเรื่อง START UP
START UP เป็นรูปแบบ SMEs เล็ก ๆ หรือว่าย่อย ๆ ก็คือ ถ้าถามอันไหนที่มันเกี่ยวพันกับบริษัทได้ แล้วนำไปมาใช้ในธุรกิจเราได้ เราก็สนับสนุน แต่บางอย่าง เช่น ขายสินค้า ออนไลน์ ก็คงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรามาก เพราะเราเป็นสินค้าอุตสาหกรรม ขายตามออนไลน์ไม่ได้ แต่ถ้าอันไหนที่มันตรงและช่วยได้ เช่นโปรแกรมในการออกแบบ หรือ ทางด้านโปรแกรมในการขายเราก็สนับสนุน
- การทำอุตสาหกรรมในปัจจุบันเกิดขึ้นน้อย
ปัจจุบันต้องเรียนว่า คนไทยในปัจจุบันไม่ทำอุตสาหกรรม หรือจะมีก็น้อยลงมา
เพราะว่า อุตสาหกรรมมีความยุ่งยาก การที่ต้องหาเงินทุนต่าง ๆ และสุดท้ายผลตอบแทนน้อย กำไรน้อยมาก กำไรสุทธิที่ออกมาไม่เหมือนกับธุรกิจที่จะซื้อมาขายไป ฉะนั้นคนไทยก็หันไปจับธุรกิจที่เป็นที่นิยมในแต่ละช่วงเวลา คือช่วงไหนธุรกิจอะไรที่เป็นที่นิยม เช่น ร้านอาหารอะไรที่ดัง ๆ อันนี้แหละครับ คนรุ่นใหม่เขาสนใจกัน จะสังเกตได้ว่าอุตสาหกรรมเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมี มีแต่คนเก่า ๆ ที่ทำอยู่ อุตสาหกรรมที่คนไทยจะมาลงทุนน้อยมาก
- แนวคิดการบริหารงานบริหารธุรกิจ
ในหลักบริหารงาน ที่ผมผ่านมาคือ ต้องมีความขยัน ความซื่อสัตย์สุจริต แล้วต้องมองโลกในแง่ดี ไม่อย่างนั้นมันก็จะเกิดไม่ได้
ส่วนที่สำคัญอีกข้อก็คือ คนรุ่นใหม่ต้องมีความรักต่อองค์กร ที่จะเข้าไปทำงานใหม่ ๆ หรือแม้แต่คนที่จะทำเป็นเจ้าของเอง SMEs ต้องมีความอดทน ปัจจุบัน เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยอดทนจะสังเกตได้จากการทำงาน เขาจะเปลี่ยนงานอยู่เรื่อย การเปลี่ยนงานด้วยเหตุผลเพื่อเพิ่มราคาผมมองว่าเป็นความคิดที่ผิด ผมว่าสักวันหนึ่ง คนที่คิดเปลี่ยนงานบ่อย ๆ ก็ต้องหยุดอยู่กับที่ แต่ ถ้าคุณทำงานอยู่ที่นั้นตลอด ทำงานอย่างมีความรู้ ผมว่าคุณจะเก่งกว่าคนที่เปลี่ยนที่ทำงานเรื่อย ๆ และต้องมีความรักองค์กร สำหรับคนที่ลงทุนเอง ต้องมีความขยัน และอดทน
- หลักในการบริหารองค์กร
หลักในการคิดบริหารในองค์กร คือ ถ้าเป็นองค์กรใหญ่ ๆ คือ
1.ต้องคำนึงถึง ผลประโยชน์สุด ๆ ของผู้ถือหุ้นก็คือกำไร บริหารให้มีกำไร
2.ต้องคำนึงถึงคุณภาพของสินค้าที่ทำ สินค้าต้องเป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพสูง เรียกว่าสูงเกินกว่ามาตรฐาน
3.ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาสินค้าอยู่ตลอดเวลา หรือปรับปรุงให้เกินความคาดหมายของลูกค้า
อย่างเช่นบริษัทของผม จะมีรับประกัน 10 ปี ซึ่งไม่มีใครรับประกัน ผมจะมีบริการ 24 ชั่วโมง ถ้าหม้อแปลงไฟฟ้าของคุณเสียสามารถโทรมาได้ที่ CALL CENTER นะครับ นี่คือหลักการบริหารสินค้า
4.เกี่ยวกับเรื่องพนักงาน บริษัทของเรา บริหารพนักงาน คือ เราต้องการให้พนักงานมีความสุข มีความสบาย เพราเราคำนึงว่าถ้าพนักงานสบายแล้วนั้น เขาจะมีความตั้งใจในการทำงาน เช่น สมัยก่อน เรามีให้หุ้นพนักงาน อยู่กับเรา ให้เขาเป็นเจ้าของด้วย อย่างคนงานที่โรงงาน เราก็จะทำห้องปรับอากาศ ให้รับประทานอาหารได้อย่างมีความสุข มีสวัสดิการที่ดีให้พร้อม
ส่วนบริษัท ฯ เราก็มีสำหรับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับพนักงาน เขาเรียกว่า ISO-18000 จะทำให้พนักงานเขาไม่มีปัญหา ในเรื่องความปลอดภัยในการทำงานต้องใส่หมวก เวลาอยู่ในโรงงาน
อันสุดท้าย คือเรียก CSR ของบริษัทในส่วนรวม ทั้งบริษัท ฯ และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายและแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งในขั้นตอนการผลิตบางขั้นตอนต้องมีการพ่นสีชิ้นงานและล้างทำความสะอาดชิ้นงาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้หากมีระบบการกำจัดสีไม่ดีพอ ซึ่งบริษัท ฯได้ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจะเกิดขึ้นได้ จึงได้มีการจัดระบบขจัดละอองสีที่เกิดขึ้นจากกรรมวิธีการผลิต ที่มีขนาดและประสิทธิภาพเพียงพอไม่ก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนหรือเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน และผู้อาศัยใกล้เคียง
…นอกจากนี้บริษัท ฯ ยังจัดให้มีการฝึกอบรม และแนะนำวิธีการป้องกันเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในส่วนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายอุบัติเหตุและอุบัติภัย รวมทั้งมีการจัดทำแผนปฏิบัติการฉุกเฉิน และมีการฝึกซ้อมอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการตั้งคณะกรรมการ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
…สินค้าของเรานั้น ทั้งหม้อแปลง ทั้งโซลาร์เซลล์ เป็น CSR ส่วนหนึ่งช่วยลดโลกร้อน อย่างหม้อแปลงไฟฟ้า “ เอกรัฐ ” ช่วยลดมลภาวะของสิ่งแวดล้อม เช่นตัวถังหม้อแปลง สีที่ทำหม้อแปลง เราทำด้วยสีน้ำ เราไม่ใส่สีทินเนอร์ ฉะนั้นจะไม่มีเรื่องมลภาวะ ปกติสีทินเนอร์ มันจะฉุน เราใช้สีน้ำในการผลิตตัวถัง ส่วนตัวแผงโซลาร์ ทราบกับอยู่แล้วว่าเราช่วยในการลดโลกร้อนโดยตรงที่ทำโซลาร์เซลล์ ”
- ข้อคิดที่อยากฝากไว้
“ สิ่งสำคัญที่สุด คือ “ คน ” สร้าง “ เครื่องจักร ” ไม่ใช่ “ เครื่องจักร ” สร้าง “ คน ” ฉะนั้นผมสร้างคนของผมให้มีความสุขเท่าที่จะทำได้ ให้มีความเป็นอยู่ในชีวิตอย่างดี เขาจะต้องมีมันสมองและจิตใจทุ่มเทให้แก่งาน ทางบ้านไม่ต้องห่วง ไม่ใช่เวลาออกจากบ้านลูกเมียขอเงินกินข้าวยังไม่มีให้เขา จะต้องตัดปัญหานั้นให้หมดไป คือว่า เรื่องของบ้านจะต้องให้เขาให้เพียงพอให้การดำรงชีวิตเขาอย่างดี คือเราคำนึงถึงความต้องการพื้นฐานของเขาโดย “ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ”
…ทุกวันนี้ทุกคนเห็นผมทำงานโดยเห็นแก่ส่วนรวมเป็นหลักคือ ผมถือว่าทุกคนต้องทำงานไปด้วยกัน ผมทำงานด้วยทีมงานไม่ได้ทำงานแบบตัวผู้บริหารเก่งคนเดียว คือทีมงานต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคู่แข่งเสมอ ผมเปรียบเทียบว่า ผมเป็นผู้จัดการก็ต้องแข่งกับผู้จัดการ ใครเป็นผู้จัดการฝ่ายขายต้องเปรียบเทียบกับผู้จัดการฝ่ายขายบริษัทอื่น ๆ ใครเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตต้องแข่งขันหรือว่าทำอย่างไรให้เราเก่งกว่าเขาให้ได้ เหล่านี้เป็นต้น ” .