เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อดี และการดูแลอย่างไร?

Must read

ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ มีถุงตา หรือเบ้าตาลึก นับว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารรถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่สำหรับสาว ๆ แล้ว การมีใต้ตาดำคล้ำ ย่อมสร้างความหนักใจอยู่เสมอ หากไม่ไดทำการรักษา ในทุกครั้งที่แต่งหน้าก็เพียงใช้คอนซีลเลอร์กลบความดำคล้ำนั้นไว้ แต่นานวันไปอาจมีอาการแย่ขึ้นมาอีกก็เป็นได้ ดังนั้นการหาวิธีรักษาจึงเป็นทางออกที่ดี ลองเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง หรือมาเลือกใช้เทคโนโลยีฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ใช้สาร HA เข้าจัดการด้วยการเติมเต็มให้ใต้ต้าดูดี มีความสว่างมากขึ้น แต่หากใครยังลังเลใจมาทำความรู้จักเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อดี และการดูแลอย่างไร?

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อดี และการดูแลอย่างไร

รู้จักเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

สำหรับคนมีปัญหาใต้ตาดำคล้ำ มีถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อยไม่กระชับ บ้าตาลึก หรือมีริ้วรอบบริเวณรอบดวงตา การเลือกใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเป็นอีกหนึ่งทางออก ที่กำลังเป็นที่นิยมให้กลุ่มสาว ๆ วัยรุ่นในขณะนี้ ด้วยเป็นสารเติมเต็มที่มีชื่อว่า Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นประเภทกรดไฮยารูโลนิกถือเป็นสารที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย สามารถสลายหมดได้เองตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติสำหรับแก้ไขปัญหาริ้วรอย และร่องตื้นต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อฉีดเข้าที่บริเวณร่องลึกใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอยหรือดำคล้ำ จะช่วยเติมเต็มร่องใต้ตาให้เรียบเนียน ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำและริ้วรอยรอบดวงตาให้จางลงได้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับปัญหาใดบ้าง

  • ปัญหาริ้วรอยใต้ตา หย่อนคล้อย 
  • ปัญหาถุงใต้ตาดำคล้ำ
  • ปัญหาขอบตาดำ เบ้าตาลึก
  • ปัญหาหน้าแก่และโทรมจากปัญหารอบดวงตา

การเตรียมความพร้อมและการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ก่อนเข้ารับการรักษา

สำหรับคนที่สนใจและมีความต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในส่วนแรกขอแนะนำให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ให้ดีเสียก่อน รวมถึงศึกษาถึงผลลัพธ์ข้อดี และข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ หลังจากนั้นทำการศึกษาคลินิกที่น่าสนใจ โดยเน้นเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีเอกสารการรับรองของแพทย์ หรือลองศึกษาจากการดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้นๆ ซึ่งหากตัดสินใจได้แล้ว ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs งดวิตามิน และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว รวมถึง งดการแว็กต่าง ๆ ด้วย

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังจากได้รับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว จะพบได้ว่ามีอาการบวมแดงเกิดขึ้นในจุดที่ฉีดเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลใจไป รอยเหล่านี้ะหายได้เองประมาณ 2-3 วัน โดยเราสามารถใช้ยาแก้ปวดลดบวมที่ได้มาจากทางคลินิกเพื่อลดอาการเหล่านี้ได้ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง และวรลดเลเซอร์ร้อนลงชั้นผิว 1 เดือน และที่สำคัญหมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพที่ดีและอยู่นานมากยิ่งขึ้น

- Advertisement -

More articles

Magazines

66,596FansLike
4,597FollowersFollow
191FollowersFollow
4FollowersFollow
1FollowersFollow
50FollowersFollow
87SubscribersSubscribe
- Advertisement -

Latest article