กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) จัดงานสัมมนาออนไลน์ Krungsri Business Talk ภายใต้หัวข้อ โอกาสและความท้าทายใหม่ สู่ธุรกิจที่ยั่งยืน (Driving Business Sustainability with ESG) เมื่อวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา งานนี้จัดขึ้นเพื่อลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีรวมถึงผู้ประกอบการที่สนใจ โดยภายในงานสัมมนาครั้งนี้ กรุงศรีได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายองค์กรมาร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ด้าน ESG (Environment, Social, และ Governance) ที่เป็นประโยชน์ต่อ SME เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ช่วยฝ่าวิกฤติให้กลายเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมี นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดงานและต้อนรับวิทยากร
นายพูนสิทธ์ ว่องธวัชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลสู่ความยั่งยืน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในวิทยากรที่ร่วมแบ่งปันมุมมอง กล่าวถึงความสำคัญของ ESG ที่มีต่อธุรกิจ หรือการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล ถือเป็นหนึ่งในทางรอดธุรกิจยุคใหม่ ที่จะสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันและช่วยพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน รวมถึงเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ในโลกยุคใหม่ที่ทั้งผู้บริโภค สังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ล้วนให้ความสำคัญและคาดหวังต่อธุรกิจ อีกทั้งการเตรียมองค์กรเพื่อพร้อมรับความเสี่ยงของโลกที่เกี่ยวเนื่องกับ ESG ในอนาคต นอกจากนี้ภาคธนาคารได้มีการส่งเสริมสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับ ESG ให้กับองค์กรธุรกิจในทุกระดับ ไม่ว่าเป็นตราสารหนี้ประเภท ESG Bond การระดมทุนผ่านกองทุนยั่งยืน ESG Fund สินเชื่อพิเศษที่สนับสนุนโครงการเกี่ยวกับ ESG เช่น สินเชื่อโซล่ารูฟสำหรับธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับดิจิทัลเทคโนโลยี ที่ช่วยลดเอกสารและการเดินทางอันเป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมได้ด้วยเช่นกัน
รศ.ดร. สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ภาควิชานวัตกรรมอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ได้กล่าวถึงแนวคิดการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจยุคใหม่ด้วยแนวคิด Resilience โดยแนะนำว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนในอนาคต องค์กรต้องมองมากกว่าความยั่งยืน (Sustainability) ที่เน้นเรื่องการสร้างความสมดุล สู่แนวคิดแบบยืดหยุ่น หรือ Resilience ที่เน้นเรื่องการทำอย่างไรที่องค์กรจะต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สิ้นสุดและยากที่จะคาดเดา โดยมีความสามารถในการ Bounce Back นั่นคือ ลุกขึ้นได้เร็วและกลับมาดีขึ้น แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่องค์กรจะต้องเตรียมรับมือจะเกิดจากปัญหาและวิกฤตใน 3 ด้าน ได้แก่ ภัยพิบัติจากธรรมชาติและสภาพแวดล้อม (Nature & Environment) ปัญหาด้านความเป็นอยู่และโครงสร้างสาธารณูปโภค (Living & Infrastructure) ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ (Society & Economy) ทั้งนี้องค์กรควรเลือกพิจารณาจากปัญหาย่อยในแต่ละด้านที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของตนก่อน และนำนวัตกรรมมาช่วยจัดการกับปัญหาต่างๆเหล่านั้น