ถ้าพูดถึงประวัติของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับโลก อายุ 89 ปี คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนและนักธุรกิจที่มีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจและการลงทุนระดับโลก ที่ทุกคนคอยเฝ้ามองการเคลื่อนไหวและได้รับการส่งต่อขุมทรัพย์ทางปัญญาจากปู่อยู่เสมอ
ครั้งหนึ่ง ปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เคยให้คำบรรยายที่มหาวิทยาลัยจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้เข้ารับฟังได้ตั้งคำถามประเด็นที่น่าสนใจไว้ว่า อะไรคือนิยามของคำว่า “#ประสบความสำเร็จ” ของปู่
ปู่วอเรนตอบว่า “เมื่อใดที่คุณรู้ว่าเวลาในชีวิตนั้นเหลือน้อยลงแล้ว คุณจะเหลือตัววัดความสำเร็จเพียงอย่างเดียว คือ … #จำนวนคนที่คุณรักแล้วเค้าก็รักคุณเหมือนกัน … วันไหนก็ตามถ้าคุณมีเงินเยอะมากซะจน คุณอยากจะทานข้าวสุดหรูทุกมื้อ หรือ อยากมีชื่อของคุณตั้งประดับเป็นชื่อตึกของโรงพยาบาล คุณก็สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนรักคุณจริงๆ ถ้าคุณลองอายุเท่ากับที่ปู่เป็นอยู่ จะเข้าใจว่า ถึงแม้ว่าคุณจะมีเงินมหาศาลในบัญชี แต่คุณไม่มีใครที่คอยห่วงใยคุณด้วยความจริงใจเลย บอกได้เลยว่า ชีวิตคุณก็อยู่ในหายนะแล้วหละ”
ความรักเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังมากที่สุดที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้ หลายๆคนยังติดอยู่ในโลกที่เสาะแสวงหาอยากมีอยากได้เหมือนคนอื่น เตรียมแผนธุรกิจมากมาย หรือวางแผนการทำงานอย่างมีความหวังเพื่อการได้มาของ ลาภ ยศ และ การสรรเสริญ จนบางคนวิ่งค้นหาไปเรื่อยๆ จนคิดไปเองว่า ปลายทางของความสำเร็จ คือ การที่ได้ไปเที่ยวยุโรปปีละหลายหน หรือ มีรถยุโรปอยู่เต็มโรงรถ โดยที่ไม่รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร
ปู่ยังย้ำอีกว่า “ปัญหาของความรัก คือ ความรักที่แท้จริงนั้นไม่สามารถซื้อขายได้” หนทางเดียวที่คุณสามารถได้รับความรัก คือ คุณต้องรู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น รู้จักเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา เมื่อคุณมีเงินมหาศาล คุณไม่สามารถโยนเงินเพื่อซื้อความรักที่แท้จริงได้ เพราะความรักไม่ได้ทำงานแบบนั้น ยิ่งคุณมีสติกับการให้ความรักมากเท่าไหร่ คุณจะได้ความรักมากขึ้นเท่านั้น