กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับงวดเก้
สำหรับงวดเก้าเดือนแรกของปี 2561 เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติ บโตของสินเชื่อลูกค้ารายย่ อยในทุกกลุ่ม สินเชื่อลูกค้าบรรษัทญี่ปุ่ นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC) และสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ SME ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสิ นเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 162.1% ระดับสูงสุดตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิ จในเอเชีย
สรุปผลประกอบการตามงบการเงิ นรวมที่สำคัญสำหรับเก้าเดื อนแรกของปี 2561
กำไรสุทธิ: จำนวน 18.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560
· การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 7.5% คิดเป็นจำนวน 116.5 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากสิ นเชื่อเพื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้น 9.7% โดยครอบคลุมทั้งสินเชื่อเช่าซื้ อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่สินเชื่อลูกค้าบรรษัทญี่ ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC) และสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ SME เติบโตที่ 14.6% และ 10.2% ตามลำดับ
· การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 4.3% หรือจำนวน 57.4 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560
· ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.81% เทียบกับ 3.82% ในช่วงเดียวกันของปี 2560
· รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 9.4% หรือจำนวน 2.2 พันล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้ นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริ การสุทธิ กำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริ วรรตเงินตราต่างประเทศและรายได้ หนี้สูญรับคืน
· อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 46.7% ปรับตัวดีขึ้นจาก 47.4% ในช่วงเดียวกันของปี 2560
· สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิ ดรายได้ (NPLs): อยู่ที่ระดับ 2.12%
· อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่ อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นมาอยู่ที่ 162.1%
· อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรั พย์เสี่ยง: ยังคงแข็งแกร่งที่ระดับ 15.50%
กำไรสุทธิ: จำนวน 18.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560
· การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 7.5% คิดเป็นจำนวน 116.5 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากสิ
· การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 4.3% หรือจำนวน 57.4 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560
· ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.81% เทียบกับ 3.82% ในช่วงเดียวกันของปี 2560
· รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 9.4% หรือจำนวน 2.2 พันล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้
· อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 46.7% ปรับตัวดีขึ้นจาก 47.4% ในช่วงเดียวกันของปี 2560
· สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิ
· อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่
· อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรั
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานของกรุงศรีในช่ วงเก้าเดือนแรกของปี 2561 เป็นที่น่าพอใจจากการเติบโตที่ แข็งแกร่งของเงินให้สินเชื่อ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่ อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็ งแกร่งโดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดั บ 2.12% และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่ อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตั วดีขึ้นมาอยู่ที่ 162.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วิ กฤตเศรษฐกิจในเอเชีย ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นสะท้ อนถึงศักยภาพของกรุงศรี และความสามารถในการขยายธุรกิ จอย่างรอบคอบเพื่อได้ประโยชน์ จากสภาพตลาดที่เอื้ออำนวยมากขึ้ น”
นายโกโตะให้ความเห็นเกี่ยวกับแน วโน้มธุรกิจโดยรวม ว่า “สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2561 ในกรณีมาตรการกีดกันทางการค้ าและผลกระทบยังอยู่ในวงจำกัด ธนาคารคาดว่าเศรษฐกิ จไทยจะขยายตัวต่อเนื่ องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ ายและการลงทุนของภาครัฐ การฟื้นตัวของการลงทุ นภาคเอกชนที่ชัดเจนขึ้น และการเพิ่มขึ้นของรายได้โดยรวม ด้วยสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุ รกิจที่ปรับตัวดีขึ้น กอปรกับปัจจัยด้านฤดูกาลสำหรั บสินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่ อยและสินเชื่อเพื่อธุรกิ จในไตรมาสที่ 4 ดังนั้น ธนาคารคาดการณ์ว่าอัตราการเติ บโตของสินเชื่อทั้งปี 2561 จะอยู่ในกรอบ 8-10%”
ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิ จการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดั บห้าของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงิ นที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.7 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.4 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.1 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ ในระดับแข็งแกร่งที่ 231.77 พันล้านบาทหรือเทียบเท่า 15.50% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.78%
นายโกโตะให้ความเห็นเกี่ยวกับแน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิ
Advertisement